จากสามทหารสู่ปตท (3)

จากสามทหารสู่ปตท (3)



เป็นอย่างไรครับ วัน Judgement Day ของ ปตท. 

เป็นไปตามคาดหรือไม่ คงยังมีเรื่องราวที่ต้องสะสางกันอีกสักพัก 
ระหว่างสุดสัปดาห์ก็พาใจสบายๆ คิดเรื่องอื่นบ้างดีกว่า 
เช่น ใกล้เลือกตั้งแล้ว ใครจะมาเป็นนายกหว่า... 
เฮอ..อนาคตประเทศไทย 

เอ้า มาต่อเรื่องราวของ ปตท.ต่อ ที่กูรูยังค้างติดไว้นิดๆ 


ความจริงหมดจากโครงการรณรงค์การใช้ก๊าซหุงต้มแล้ว 

กูรูเองก็ไม่มีอะไรต้องเกี่ยวข้องกับ ปตท.โดยตรงนัก 
เพียงแต่เฝ้ามองห่างๆในฐานะของคนเคยร่วมงาน ร่วมชะตากรรม
และร่วมน้ำสาบานเอ๊ยน้ำซดสัมตำกันมา 
ในแวดวงที่ทำงานอยู่บางครั้งก็โฉบเฉี่ยวผ่านๆบ้างเหมือนกัน 

ปฎิเสธไม่ได้ว่า โฆษณาประชาสัมพันธ์ก็เป็นอีกเหลี่ยมมุมหนึ่ง

ที่จะขับความทันสมัยของผลิตภัณฑ์ออกมาให้เห็น 
ขณะนั้น ปตท. ในสายตาของทุกคน...โค...เชยมากๆ ทุกคนยังติดภาพน้ำมันสามทหาร เต่าคลานช้าๆ.... 
ตัวปั๊มหรือก็ไม่สดใสเอาเสียเลย 
ไปต่างจังหวัดทีไร ปตท.เป็นปั๊มสุดท้ายที่จะเข้า 
โชคดีที่มีไม่มาก มิฉะนั้นชื่อเสีย(ง)คงยิ่งขจรขยาย 

ขณะนั้นปั๊มอันดับหนึ่งที่มีจำนวนมากที่สุดคือเชลส์ ตราหอย 

สะท้อนออกในภาพยนตร์โฆษณาเรื่องหนึ่งที่เป็นพี่น้องสองคน 
ตั้งหน้าตั้งตาเล่นนับปั๊มเชลส์ตั้งแต่ออกเดินทางจนม่อยหลับ 
ตั้ง 300 กว่าปั๊มแน่ะ 

ด้วยภาพลักษณ์ของปั๊มที่สดใส มีพลัง แดง เหลือง 

และคำพูดติดปาก “เชลล์เต็มถังมั้ยครับ” 
เออ..เออ.. ถ้าเรากำลังเผลอไผลคิดเรื่องอื่นอยู่ก็อดพยักหน้าไม่ได้ 
มาสะดุ้งตกใจเมื่อเห็นบิล 
เพราะฉะนั้นเวลาเข้าปั๊มเชลส์ต้องตั้งสติให้มั่น อย่าใจง่ายเด็ดขาดครับ 
กิจการของเชลส์ดูก้าวหน้าและเป็นปั๊มยอดนิยม ขวัญใจคนไทย 
แม้จะมีพลาดท่าเสียทีในกรณี น้ำมันรุ่น 9404 
(ไม่แน่ใจ ขอผู้รู้แก้ไขด้วยครับ หาข้อมูลในเน็ทก็ไม่เจอ)) 
ที่เพิ่งออกตัว แล้วระเบิดขึ้นมาทำให้รถยนต์เสียหาย (ในต่างประเทศ) 
แต่บริษัทก็แก้เกมส์ทันท่วงที โดยระงับการจำหน่ายและออกตัวใหม่ทันที
ภายใน 2 วันนับจากเกิดขึ้น 
Crisis Management เยี่ยมจริงๆ 

ด้านเอสโซ่หลังจากจับเสือหมกเอ๊ยใส่ถังพลังสูงมานาน 

จนเสือง่อยอยู่เป็นปี ก็ขอเริ่มออกอาละวาดใหม่ 
โดยเปลี่ยนแคมเปญและเปลี่ยนเอเยนซี่โฆษณารายใหม่ 
ขอให้จำชื่อนี้ไว้นะครับ คือ ลีโอ เบอร์เน็ท 
เจ้าของปณิธาน ไขว่คว้าหาดวงดาว 
ด้วยความเชื่อที่ว่า 
"จงเอื้อมมือไขว่หาดวงดาวเสมอ แม้ไม่ได้มาสักดวง อย่างน้อย...มือคุณก็ไม่มีวันเปื้อนดิน" 

ลีโอ เบอร์เน็ท ปรับภาพลักษณ์ใหม่ของ เอสโซ่ให้ดูน่าเชื่อถือ 

มีพลังด้วยภาพยนตร์ซีรีสยาว 4 ชุด ฉายต่อเนื่อง ฮือฮาเป็นประวัติการณ์ 
และหนึ่งในชุดที่โด่งดังที่สุดก็คือ ลุงคำแก้ว 
พอจะจำได้มั้ยเอ่ย ลุงคำแก้วเป็นพนักงานขับรถเอสโซ่..... 

แคมเปญเสือเผ่นทะยานของเอสโซ่ได้เขยิบสถานะของบริษัทขึ้นมาสูสีกับเชลส์ได้ 

ในวงการน้ำมันก็ดูๆกันว่า ระหว่างหอยกับเสือ (อังกฤษ-ดัชท์ กับ อเมริกัน)ใครจะขยี้ใครก่อน 
ส่วนคาลเทกซ์ หลังจากออกแคมเปญ แรงอย่าง CX -3 ก็ไม่ค่อยมีแรงเหลือสู้เท่าไหร่ 

ผลงานของลีโอ เบอร์เน็ท เข้าตาผู้ชมหลายคนรวมทั้งผู้บริหาร ปตท. 

หลังครบเทอมกับเอเยนซี่เจ้าเก่า ปตท.ก็เลยเปิดทางให้ประมูลเสนอผลงานใหม่ 
อุตส่าห์พยายามหาข้อเลี่ยงต่างๆเพื่อให้เอเยนซี่ต่างชาติได้เข้าร่วม 
เพราะมีกฏระเบียบกำกับว่า
รัฐวิสาหกิจจะต้องใช้บริการจากหน่วยงานคนไทยด้วยกัน
ก่อนจะไปใช้ของเมืองนอก (ถ้าคุณภาพงานเท่าๆกัน บริษัทคนไทยจะถูกรับเลือกก่อน) 

และลีโอ เบอร์เน็ท ก็ต้องจำใจกล่าวอำลากับเสือคู่ใจที่ปลุกปั้นขึ้นมา 

เมื่อได้ลูกค้ารายใหม่คือ ปตท. (เงินหนากว่า) 

จากวันนั้นก็ได้เป็นเอเยนซี่ที่สร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้กับ ปตท. 

ไม่ว่าจะเป็นการ ออก Unleaded มนุษย์สารตะกั่ว มนุษย์หนืด ก๊อดซิลล่า ฯลฯ 
แต่หนึ่งในความภูมิใจที่ประทับใจคนดู 
ก็คือภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติในหลวง 
ที่จับเรื่องของคุณครู สมบูรณ์ เสรีเวสารัตน์ มาใส่ในฟิลม์ภาพยนตร์ 

“หลายคนย้ำนักย้ำหนาว่าคลองตาปี จระเข้เยอะ.. 

ทุกคนห้ามหมดเขาว่าผู้หญิงตัวคนเดียว จะอยู่อย่างไรไกลขนาดนั้น.." 
"ก็เลยบอกว่าขอเถอะ อยู่แค่ 4 - 5 ปีเอง เดี๋ยวกลับ.. 
ตอนนั้นไม่รู้เลยว่าจะเป็นทั้งชีวิต เพียงเพราะแววตาของเด็ก ๆ ที่มองเรา…" 
"ที่นี่ อะไร อะไร ก็ต้องพึ่งฟ้าพึ่งฝน บางทีก็น้อยไป บางทีก็มากไป.. 
ฉันตัดสินใจเลือกที่นี่ ก็เพราะฉันเห็นในหลวงท่านยังมาได้…" 
"ท่านเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของประเทศ..และเราล่ะ จะทำสิ่งเล็ก ๆ แค่นี้ไม่ได้เชียวหรือ…!?! 

เล่ากันว่า ทีมงานเลือกผู้แสดงคุณครูคนเดียว 

ที่เหลือไปหาเอาที่สถานที่ถ่ายทำจริง 
ปรากฏชาวบ้านทุกคนพอรู้ว่าเป็นหนังเทิดพระเกียรติ 
ขอเสนอตัวเข้ามาเล่นฟรีๆกันหมดทั้งหมู่บ้าน 
เพื่อไม่ให้เสียน้ำใจ กองถ่ายก็เลยถ่ายฉากโน้นบ้าง ฉากนี้บ้าง 
ให้ชาวบ้านได้เล่นนิดเล่นหน่อย(แต่จริงๆไม่ได้ออกอากาศหรอก) 
ถึงทุกวันนี้ เรื่องของคุณครูสมบูรณ์ 
ดูเหมือนจะเป็นหนังเทิดพระเกียรติในหลวงเรื่องเดียวที่ฉีกออกมาจาก 
บรรดาภาพยนตร์ถวายพระพรทั้งหลาย 

ทุกวันนี้ ปตท.ได้ปรับเปลี่ยนและแบ่งงานให้กับเอเยนซี่หน้าใหม่ๆที่เข้ามารับงาน 

แต่ลีโอ เบอร์เน็ทท ถือเป็นผู้ที่พลิกโฉมหน้าใหม่ของ ปตท. 
จากความเชยครึ ราชการมาเป็น ปตท. ที่เรารู้จัก

เอวัง..ที่เหลือเพื่อนๆก็คงประจักษ์เองได้แล้ว 


ปิดม่านแล้วครับ